4tree

4TREE โฟร์ทรี ใช้กับมันสำปะหลัง

4tree มันสำปะหลัง อย่างไรให้ได้ผลผลิตดี ต้องขึ้นกับการปลูกในระยะห่างที่เหมาะสมด้วยครับ สำหรับเกษตรกรที่ปลูกมันปกติแล้ว การเสียบท่อนพันธุ์ความห่างก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ 50 ซม. ขึ้นไป จากที่เราได้ทำแปลงสาธิตเพื่อการทดลองเปรียบเทียบดูว่า ขนาดความห่างของร่องและความห่างของต้นมันเท่าไหร่ ถึงทำให้มันหัวใหญ่ได้ดี

ผลสรุปคือ ระยะห่างที่เหมาะสมคือ 1 เมตร x 1 เมตร ทำให้มันได้มีพื้นที่ขยายหัวได้ใหญ่ขึ้น ในพื้นที่ที่เท่ากัน 1 ไร่ ใช้วิธีการดูแลเหมือนกัน แต่ระยะห่างต่างกัน ผลปรากฎว่า ได้ผลผลิตไม่ต่างกัน แต่ทำให้ผู้ปลูกสามารถประหยัดท่อนพันธุ์ได้มากถึง 50% จากเดิม หากปลูกในระยะห่าง 50-60 ซม.

4tree

ปลูกมันสำปะหลังอย่างไรให้ได้ผลผลิตดี

วิธีการใช้โฟร์ทรี+อะมิโน กับมันสำปะหลัง

การนำไปใช้งาน : นำไปผสมน้ำฉีดพ่นเป็นละอองฝอย ทั้งใบและลำต้น
อัตราส่วนผสมโฟร์ทรี :
– โฟร์ทรี ขนาด 1 ช้อนตวง ผสมน้ำ 20 ลิตร (ช้อนตวงมีแถม)
– โฟร์ทรี ขนาด 1 ซอง ผสมน้ำได้ 400-800 ลิตร
อัตราส่วนผสมอะมิโนแบล๊ค :
– อะมิโนแบล๊ค 50 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร (มีฝาตวงแถม)
– อะมิโนแบล๊ค 1 ขวด ผสมน้ำได้ 400 ลิตร

4tree

 

กรณีใช้แช่ท่อนพันธุ์ : ผสมโฟร์ทรี 10 ช้อน ต่อ น้ำ 100 ลิตร ไม่ควรแช่นานเกินไป 10-30 นาทีก็พอ

​จากนั้นฉีดพ่นตามระยะการเจริญเติบโตดังนี้

  ฉีดพ่นครั้งที่ 1 : มันสำปะหลัง อายุ 15 วัน
  ฉีดพ่นครั้งที่ 2 : มันสำปะหลัง อายุ 30 วัน
  ฉีดพ่นครั้งที่ 3 : มันสำปะหลัง อายุ 45 วัน

  ฉีดพ่นครั้งที่ 4 : มันสำปะหลัง อายุ 2-3 เดือน
ข้อมูลสำคัญ : โฟร์ทรีสามารถใช้ผสมร่วมกับสารเคมีได้ แต่ อะมิโนไม่สามารถใช้ร่วมกับสารเคมีได้

4tree

4tree

4tree

วิธีการใช้โฟร์ทรี+ไบโอ กับมันสำปะหลัง
​การนำไปใช้งาน : นำไปผสมน้ำฉีดพ่นเป็นละอองฝอย ทั้งใบลำต้น

อัตราส่วนผสมโฟร์ทรี :

– โฟร์ทรี ขนาด 2 ช้อนตวง ผสมน้ำ 20 ลิตร  (ช้อนตวงมีแถม)

– โฟร์ทรี ขนาด 1 ซอง ผสมน้ำได้ 400 ลิตร

อัตราส่วนผสมไบโอแบล็ค :

– ไบโอแบล็ค 40 ซีซี  ผสมน้ำ 20 ลิตร  (มีฝาตวงแถม)

– ไบโอแบล็ค  1 ขวด ผสมน้ำได้ 500 ลิตร

4tree

 

การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง

นอกเหนือจากการปรับปรุงบำรุงดินร่วมกับการอนุรักษ์ดิน และการใช้พันธุ์มันสำปะหลังพันธุ์ดีแล้ว  การจัดการดูแลดี โดยเริ่มตั้งแต่ ฤดูการปลูกที่เหมาะสม การเตรียมดินดี การเตรียมท่อนพันธุ์ปลูก ระยะปลูกที่เหมาะสมตลอดจนการใช้ปุ๋ยเคมีในอัตราที่เหมาะสม การกำจัดวัชพืชถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลผลิตสูงขึ้น โดยเฉพาะการเอาใจใส่ในการเตรียมท่อนพันธุ์จะมีผลทำให้ความอร่อยของมันสำปะหลังสูงขึ้น โดยเฉพาะการเอาใจใส่ในการเตรียมท่อนพันธุ์จะมีผลทำให้อัตราความอยู่รอดของมันสำปะหลังสูงขึ้น

ยินดีให้คำปรึกษา
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 095-534-9939
4tree

การคัดเลือกท่อนพันธุ์สมบูรณ์

1.  ต้องใช้ท่อนพันธุ์ที่มีอายุ 8-14 เดือน โดยสังเกตจากสีของลำต้นที่จะเปลี่ยนแปลง เป็นสีเข้มเมื่อมีอายุ  มากขึ้น และไม่มีโรคแมลงติดมา

2.  ต้องเก็บรักษาต้นพันธุ์ให้ดี หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ควรรีบนำต้นพันธุ์ไปปลูกทันที หากจำเป็นต้องเก็บรักษาต้นพันธุ์ไว้ทำพันธุ์ต่อไป สามารถทำได้โดยตั้งกองพันธุ์ไว้กลางแจ้งในแนวตั้ง ให้ส่วนของโคนสัมผัสผิวดิน หรือใช้ดินกลบโคนและกองไม่ให้ใหญ่เกินไป เพื่อให้อากาศถ่ายเท ซึ่งวิธีการดังกล่างจะสามารถเก็บรักษาต้นพันธุ์ได้ 15-30 วัน หรือนานถึง 2 เดือน แต่ถ้าเก็บรักษาไว้นานต้นจะแห้งจากส่วนปลายลงมา และตาจะแตกทำให้ได้จำนวนท่อนพันธุ์ที่สมบูรณ์น้อยลง

3.  ต้องใช้ส่วนกลางของลำต้น ควรเป็นส่วนกลางของลำต้นที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป

4.  ต้องตัดท่อนที่มีความยาวเหมาะสม ในช่วงต้นฤดูฝน ควรใช้ท่อนพันธุ์ขนาด 20 เซนติเมตร และช่วงปลายฝน ควรใช้ท่อนพันธุ์ขนาด 25-30 เซนติเมตร (ควรมีตาอย่างน้อย 5-7 ตา) ส่วนการสับท่อนพันธุ์ ควรสับให้เฉียงเล็กน้อย และหลีกเลี่ยงให้ตาบนท่อนพันธุ์ช้ำ หรือถูกกระทบกระเทือน

5.  วิธีการปลูกที่เหมาะสม

ควรปลูกแบบปักตรงหรือเอียงเล็กน้อย เป็นวิธีให้ผลผลิตสูงความลึกในการปักท่อนพันธุ์ลงในดินประมาณ 8-10 เซนติเมตร แต่ไม่ควรปักลึกมากและควรมีการตรวจสอบความงอกหลังปลูกเพื่อให้ซ่อมได้ทันเวลา

4tree

โรคใบด่างมันสำปะหลัง

เกิดจากเชื้อไวรัส ในวงศ์ Geminiridae สกุล Begomovirus ปัจจุบันมีรายงานทั้งหมด 10 ชนิด โดยพบในทวีปแอฟริกา 8 ชนิด และในทวีปเอเชีย 2 ชนิด ได้แก่ Indian cassava mosaic virus (ICMV) พบในประเทศอินเดีย และ Sri Lankan cassava mosaic virus (SLCMV) พบในประเทศศรีลังกา อินเดีย เวียดนาม และกัมพูชา

ลักษณะอาการของโรค

ใบด่างและใบหงิก เสียรูปทรง อาการด่างมีหลายแบบ เช่น ด่างเขียวซีดสลับเขียวเข้ม ด่างเหลือสลับเขียว ใบหงิก หรือ หงิกเหลือง ใบย่อยบิดเบี้ยวหงิกงอ โค้งเสียรูปทรง ใบอ่อนและใบที่เจริญใหม่มีขนาดเล็กลง ยอดหงิก ต้นแคระแกร็น

การแพร่ระบาด

สามารถแพร่ระบาดโดยท่อนพันธุ์ โดยมีแมลงหวี่ขาวยาสูบ (tobacco whitefly) เป็นพาหะนำโรค ซึ่งแมลงหวี่ขาวยาสูบมีพืชอาศัยหลายชนิด เช่น กะเพรา โหระพา ผักชีฝรั่ง พืชตระกูลพริก มะเขือ มันฝรั่ง และพืชตระกูลแตง ทำให้มีการแพร่ระบาดไปได้อย่างกว้างขวาง

โรคแอนแทรคโนส

สาเหตุของโรค เกิดจากเชื้อราในสภาพพื้นที่ ที่มีความชื้นสูงติดต่อกันมากกว่า 2 สัปดาห์  ในพันธุ์มันสำปะหลังที่อ่อนแอ เช่น ระยอง 72 หรือ ระยอง11 ส่วนพันธุ์ที่ค่อนข้างทนทาน ยอดจะเหี่ยวแห้งตายลงมาทำให้เกิดมีการเจริญเติบโตของกิ่งหรือยอดใหม่ น้ำหนักผลผลิตจะลดลงหรือเก็บเกี่ยวล่าช้า ผลผลิตจะเสียหาย 30 – 40%

ลักษณะอาการ

ใบจะมีไหม้สีน้ำตาล ขยายตัวเข้าสู่กลางใบ มักปรากฏกับใบที่อยู่ล่าง ในตัวแผลบนใบจะมีเม็ดเล็กๆ สีดำขยายตัวไปตามขอบของแผลอาการไหม้ ส่วนก้านใบ อาการจะปรากฏในส่วนโคนก้านใบ  จะเป็นแผลสีน้ำตาลขยายตัวไปตามก้านใบ ทำให้ก้านใบมีลักษณะลู่ลงมาจากยอด หรือตัวใบจะหักงอจากก้านใบ เกิดอาการใบเหี่ยวและแห้งได้ ส่วนลำต้นและยอด แผลที่ลำต้นจะเป็นแผลที่ดำตรงบริเวณข้อต่อกับก้านใบและมีสภาพแวดล้อมเหมาะสม แผลจะขยายตัวไปสู่ส่วนยอดทำให้ยอดเหี่ยวแห้งลงมา

คลิ๊ก ที่นี่ เพื่อกลับไปยังหน้าหลัก

4tree

error: Content is protected !!