4TREE ใช้กับนาข้าว นวัตกรรมสารเสริมประสิทธิภาพพืช
4TREE นาข้าว เพื่อพืชพรรณทุกชนิด ช่วยปรับสภาพดิน ทำให้พืชเติบโตเร็ว รากแผ่ขยายได้ไว ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และลดเวลาในการจัดการ เป็นสินค้าขายดี ตอบโจทย์เกษตรกรได้ตรงจุด
วิธีใช้ 4Tree กับนาข้าว
4tree นาข้าว แช่เมล็ดพันธุ์ข้าว 24 ชม.
อัตราการใช้แช่ข้าว 1 ช้อน : น้ำ 20 ลิตร
ฉีดแบบฝอยละอองเดินเร็ว
ไม่ต้องฉีดย้ำ
👍เวลาที่เหมาะสมในการพ่น
ช่วงเช้ามืด หรือแดดอ่อนๆ
– ครั้งที่ 1 ข้าวอายุไม่เกิน 1 เดือน (ฉีดพร้อมยาคุมข้าว)
– ครั้งที่ 2 ช่วงหว่านปุ๋ยพื้น (ลดปุ๋ยลงครึ่งนึ่ง)
– ครั้งที่ 3 ช่วงข้าวอายุ 1 เดือน ถึง 2 เดือน
– ครั้งที่ 4 ช่วงข้าวตั้งท้อง ให้หว่านปุ๋ยพื้น (ลดลงครึ่งหนึ่ง) ใช้ก่อนหว่านปุ๋ย 5-7 วัน
-ครั้งที่ 5 ช่วงข้าวรวงก้ม
ต้นแข็ง..แมลงไม่กวน.. ข้าวเม็ดใส ..น้ำหนักดี 🌾🌾 ลดปุ๋ยเคมี ลดยาฆ่าแมลง 🐛
ติดต่อสอบถามทางไลน์
หรือ โทร.095-534-9939
ข้าวที่มีคุณภาพ ต้องดินดี อาหารดี อากาศดี น้ำดี
เราอาจจะควบคุมอากาศและน้ำไม่ได้ แต่ 4tree คือนวัตกรรมสารอินทรีย์จากธรรมชาติ ช่วยให้รากดูดอาหารเก่ง ต้นข้าวแข็งแรง ดอกเยอะ รวงข้าวแน่น ไม่หลุดร่วง ไม่มีโรคแมลง ข้าวที่หาอาหารได้เอง จึงไม่ต้องการปุ๋ยเคมีเพิ่ม ลดต้นทุนปุ๋ยเคมีไปได้อีกโข
เพิ่มความสมบูรณ์แข็งแรงของต้นข้าวทนต่อสภาพแวดล้อม ช่วยให้เม็ดข้าวน้ำหนักดีเม็ดเต็มรวง รวงข้าวมีความเหนียว เก็บเกี่ยวได้มากไม่เสียผลผลิตจาการหลุดร่วง สร้างความแข็งแรงให้พืชกันจ้า หมดกังวลปัญหาพืชโตช้า แมลงไม่กวน ไร้ปัญหาเชื้อรา
โฟร์ทรี นวัตกรรมสารเสริมประสิทธิภาพ เพื่อพืชพรรณทุกชนิด ช่วยปรับสภาพดิน ทำให้พืชเติบโตเร็ว รากแผ่ขยายได้ไว ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พลังอิออน ของโฟร์ทรี มีประสิทธิภาพมากกว่าระดับนาโน ถึง 5 เท่า สามารถซึมผ่านใบ ลำต้น และทุกส่วนของพืชได้ในเวลาเพียงไม่ถึง 1 นาที ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับโมเลกุลของพืช คืนสภาพความสมดุลของพืชให้กลับสู่สายพันเดิม ปัญหาแมลงและศัตรูพืชจะหมดไป เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นน้ำเลี้ยง ในช่วงที่สารอาหารของพืชซึมเข่าสู่ท่อลำเลียง โฟร์ทรี เป็นนวัตกรรมใหม่ สกัดจากสารอินทรีย์ธรรมชาติ ได้แก่ กรดฮิวมิก กรดฟีโนลิก กรดซิตริก กรดอะมิโน และ สารสกัด X-factor สุดยอดนวัตกรรมใหม่ของวงการ ลิขสิทธิ์เฉพาะของเอโฟเอส ช่วยเพิ่มแป้งและน้ำตาลให้กับพืช สร้างความพร้อมในการออกดอก ออกผล ป้องกันการหลุดร่วง ของดอกและผล เพิ่มขนาดของผลให้เติบโตจนสุดสายพันธ์ พืชพรรณของท่านจะออกดอก ออกผล เป็นเงิน เป็นทอง “โฟร์ทรี เพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจ ของเกษตรกร”
ยินดีให้คำปรึกษา
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 095-534-9939
ลักษณะของข้าว
ข้าวหอมมะลิ เป็นข้าวที่ชาวไทย และชาวต่างชาตินิยมรับประทานมากที่สุดในบรรดาข้าวสายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะคนไทยที่เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่สำคัญของโลก ซึ่งพบปลูกมากในภาคอีสานเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดมหาสารคาม สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศีรสะเกษ ยโสธร ร้อยเอ็ด นครราชสีมา เป็นต้น ซึ่งพบมากใน 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และพันธุ์ กข 15
ลักษณะเด่น
1. พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105
มีลักษณะเด่นในด้านการเจริญเติบโต และทนต่อสภาพดินเค็ม ดินเปรี้ยว ความแล้ง ลักษณะของเมล็ดข้าวสารลื่นมัน วาว เม็ดเรียว สวยงาม เมื่อหุงจะมีกลิ่นหอมคล้ายดอกมะลิ และนุ่ม จุดด้อย คือ ไม่ทนต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไม่ค่อยต้านทานต่อโรคไหม้ ต้นอ่อนหากปักดำหรือรากไม่ยั่งลึก หน้าดินแน่น แข็ง จะล้มง่าย
2. พันธุ์ กข 15
มีลักษณะเด่นเหมือนพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 คือ ทนต่อสภาพดินเค็ม ดินเปรี้ยว ความแล้ง แต่มีอายุการเก็บเกี่ยวที่สั้นกว่าประมาณ 10-15 วัน ลักษณะของเมล็ดข้าวสารลื่นมัน วาว เม็ดเรียว สวยงาม เมื่อหุงจะมีกลิ่นหอมคล้ายดอกมะลิ และนุ่ม ส่วนยจุดด้อยมีลักษณะคล้ายกันพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 เช่นกัน
การปลูก
ข้าวหอมมะลินิยมปลูกทั้งในช่วงฤดูนาปี และนาปรัง นาปีจะเริ่มในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ในระยะหว่านกล้า ซึ่งจะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมส่วนนาปรังสามารถปลูกได้ ตลอดฤดูขึ้นอยู่กับน้ำ และการชลประทาน
วิธีการปลูกนิยมทั้ง 2 วิธี คือ การปักดำจากต้นกล้าในระยะ 25×25 เซนติเมตร และวิธีการหว่านในอัตรา 15-20 กิโลกรัม/ไร่ ทั้งนี้การปลูกข้าวด้วยการหว่านควรกำจัดวัชพืชในแปลงออกให้เหลือน้อยที่สุด
การหว่านแบบแห้งพร้อมไถกลบ ควรไถกลบ และไถดะตากดินหรือวัชพืชให้เน่าหรือตายเสียก่อนอย่างน้อยประมาณ 2-3 อาทิตย์ ก่อนการหว่าน
การ หว่านแบบเปียก ควรไถกลบ และแช่น้ำให้วัชพืชหรือตอซังเน่าอย่างน้อยประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก่อนการหว่าน สำหรับวิธีการปักดำมักไม่ค่อยพบปัญหาเรื่องวัชพืช
คลิ๊ก ที่นี่ เพื่อกลับไปหน้าหลัก